ความต้องการฉีดวัคซีนโควิด-19 และการตรวจหาเชื้อด้วยตัวเองในสหราชอาณาจักร เพิ่มขึ้นอย่างล้นหลาม หลังมีการยืนยันผู้เสียชีวิตคนแรกจากเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ “โอไมครอน”
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ว่า สำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติ (เอ็นเอชเอส) ออกแถลงการณ์ว่า สืบเนื่องจากความต้องการระดับสูง ในการเข้าสู่ระบบการจองฉีดวัคซีนโควิด-19 และการบริหารจัดการระบบการนัดหมาย
ด้วยเหตุนี้ เอ็นเอชเอสจึงขอแนะนำให้ประขาชนที่ประสงค์เข้ารับบริการ วางแผนล่วงหน้า หรือพยายามเข้าสู่ระบบนัดหมายอีกครั้งในวันต่อไป ขณะที่ชุดตรวจหาเชื้อแบบใช้เองตามบ้าน ขาดตลาดเช่นกัน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังรัฐบาลสหราชอาณาจักรยืนยัน การมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ โอไมครอน โดยเพื่อปกป้องสิทธิและความเป็นส่วนตัวของผู้เสียชีวิต นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ปฏิเสธให้ข้อมูลเกี่ยวกับเพศ อายุ สัญชาติ ลักษณะการใช้ชีวิตก่อนติดเชื้อ และสถานะการฉีดวัคซีนของผู้เสียชีวิต แต่ขอให้ประชาชนเพิ่มการตระหนักรู้ และเปลี่ยนความคิดได้แล้ว ว่าเชื้อตัวนี้ไม่อันตราย
ด้านนายซาจิด จาวิด รมว.สาธารณสุขของสหราชอาณาจักร กล่าวว่า 44% ของผู้ป่วยโควิด-19 ในกรุงลอนดอนตอนนี้ เป็นเชื้อโอไมครอน และมีแนวโน้มที่เชื้อตัวนี้จะกลายเป็นสายพันธุ์หลักของการระบาดในเมืองหลวง ภายในอีก 48 ชั่วโมง